วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

พัทยาติดอันดับ 2 ใน 20 ของเมืองท่องเที่ยว

 นายคริสโตเฟอร์ มิดเดิลตัน ผู้สื่อข่าวอาวุโสด้านอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวจากเว็บไซต์เทเลกราฟ ของอังกฤษ ได้จัดอันดับ 20 เมืองจากทั่วโลก ที่ชาวต่างชาติมองว่าเมืองนั้น ๆ เหมาะที่จะเป็น "บ้านหลังที่สอง" ของพวกเขาอย่างมาก ที่สำคัญหนึ่งใน 20 อันดับนั้นยังมีชื่อของพัทยา เมืองในประเทศไทยอยู่ด้วย …

สำหรับเมืองที่ติด 20 อันดับจากทั่วโลกมีดังนี้




1. ประเทศอัลเบเนีย (Albania)

ด้วยสภาพภูมิอากาศที่กำลังดี ไม่หนาว ไม่ร้อนจนเกินไป อยู่ติดกับทะเลที่มีความสวยงาม เหมาะอย่างยิ่งที่จะจัดปาร์ตี้สังสรรค์ให้สนุกสุดเหวี่ยง นอกจากนั้นแล้วยังรีสอร์ทสุดหรูที่สามารถมองเห็นความงามของท้องทะเลได้อย่าง ชัดเจนอีกด้วย


2. เมืองพัทยา ประเทศไทย

เมืองพัทยาเป็นเมืองที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม มีสีสันในยามราตรี อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ มีราคาถูกเมื่อเทียบกับเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก แถมยังมีสถิติระบุว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนดินแดนแห่งนี้ถึง 6 ล้านคนเลย จึงไม่แปลกใจเลยที่นักท่องเที่ยวต่างเทใจให้เมืองพัทยาเป็นบ้านหลังที่สอง ของพวกเขา


3. เมืองปูเกลีย ประเทศอิตาลี (Puglia, Italy)

ดินแดนแห่งวงการแฟชั่นแห่งนี้ จัดได้ว่าเป็นเมืองตากอากาศดี ๆ ของโลกอีกเมืองหนึ่ง อากาศที่บริสุทธ์ ทัศนียภาพของขุนเขาและสีฟ้าของน้ำทะเล วิถีชีวิตของผู้คนในเมืองที่เรียบง่าย และอื่น ๆ อีกมากมาย คือเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ที่นี่มักจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาผ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก


4. เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย (St Petersburg, Russia)

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความหนาวเย็นแบบสุดขั้วหัวใจของอุณหภูมิในหน้าหนาว หรืออยากจะใช้ชีวิตแบบง่าย ๆ ห้องสักห้องหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมองเห็นความเป็นอยู่ของผู้คนได้ง่าย ๆ เพียงแค่มองลอดหน้าต่างพร้อมกับความอลังการของสิ่งปลูกสร้างมากมาย เชื่อได้ว่าจะต้องชอบและหลงเสน่ห์ที่นี่กันแน่ ๆ


5. เมืองกราโกว ประเทศโปแลนด์ (Krakow, Poland)

ช่วงนี้ราคาของบ้านในประเทศโปแลนด์มีราคาที่พุ่งสูงขึ้น เพื่อรับกับกระแสการเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลยูโร 2012 ดังนั้นถ้าอยากได้บ้านในสไตล์โมเดิร์นแบบยุโรป ผสมกับกลิ่นอายความเป็นโปลิชด้วยแล้วล่ะก็ เหมาะอย่างมากที่จะหาซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ จากการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อย ลงทุนสักนิด รับรองว่าได้ทั้งบ้านสวยและอากาศดี ๆ อย่างแน่นอน


6. เมืองไลป์ซิก ประเทศเยอรมนี (Leipzig, Germany)

ความเงียบสงบ ความก้าวล้ำทางเทคโนโลยี ประเพณี และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ความเป็นมิตรของผู้คน ล้วนแล้วแต่หลอมรวมอยู่ในเมืองไลป์ซิกแห่งนี้ทั้งสิ้น เรียกได้ว่าดีพร้อมซะขนาดนี้ ใครล่ะจะไปอดใจไม่ให้หลงเสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ไปได้


7. เมืองเซลล์ แอม ซี ประเทศออสเตรีย (Zell am See, Austria)

ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เป็นภูเขารอบด้าน ประกอบกับช่วงหน้าหนาวจะมีหิมะปกคลุมอยู่ทั่วพื้นที่ ทำให้ในเมืองเซลล์ แอม ซี แห่งนี้เป็นแหล่งที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจ เล่นสกี้ และทำกิจกรรมอื่น ๆ ในหน้าหนาวอีกมากมาย


8. เมืองโนว่า สโกเทีย ประเทศแคนาดา (Nova Scotia, Canada)

เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศแคนาดา เป็นเมืองที่มีความอบอุ่นและมีประชากรอยู่กันเพียงแค่ 950,000 คนเท่านั้น ฉะนั้นแล้ว ความเงียบสงบ ความเป็นกันเอง รวมถึงอากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่น และปัจจัยอื่น ๆ จึงทำให้ที่นี่เหมาะแก่การเป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติอยู่ไม่น้อยเลย ทีเดียว


9. เมืองทอลล์อินน์ ประเทศเอสโตเนีย (Tallinn, Estonia)

จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองในทวีปยุโรปที่มีความงดงามด้านสถาปัตยกรรม และอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยประวัติอันเก่าแก่มากมาย ฉะนั้น หากใครที่ชื่นชอบในความงามแบบคลาสสิคด้วยแล้วล่ะก็ ที่นี่จะต้องอยู่ในลิสต์เมืองที่น่าอยู่เมืองหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย


10. เมืองอเลนเตโฆ่ ประเทศโปรตุเกส (Alentejo, Portugal)

คุณชื่นชอบการดื่มไวน์กันบ้างหรือไม่ และเคยคิดที่อยากจะมีไร่องุ่นเป็นของตัวเองหรือเปล่า ถ้าใช่! เมืองอเลนเตโฆ่แห่งนี้ก็พร้อมต้อนรับคุณอย่างเต็มที่ ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศที่อำนวยแก่การทำไร่องุ่น ที่นี่เองจึงเป็นแหล่งผลิตไวน์ชั้นดีที่ไม่แพ้ชาติอื่น ๆ เช่นกัน


11. เกาะเช็ตแลนด์ (Shetland Islands)

เกาะเช็ตแลนด์แห่งนี้ตั้งอยู่ในประเทศสก็อตแลนด์ เป็นเกาะที่มีความห่างไกลกับแสงสียามราตรี ดังนั้นจึงสบายใจได้หากต้องการความเป็นส่วนตัวที่เงียบสงบ และได้สัมผัสกับธรรมชาติของท้องทะเลแบบเต็ม ๆ นอกเหนือไปจากนั้นเกาะแห่งนี้ยังเป็นที่นิยมของชาวอังกฤษในการเดินทางมาพัก ผ่อนกันอีกด้วย


12. อ่าวกอเตอร์ ประเทศมอนเตเนโกร (Kotor Bay, Montenegro)

ความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน วิวทิวทัศน์ของท้องทะเล บ้านเรือน ความเป็นอยู่ของผู้คน เหล่านี้คือสิ่งที่สามารถหาได้จากเมืองนี้ แถมยังมีเครื่องหมายการันตีจากองค์การยูเนสโก้ ด้วยการยกให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย


13. เกาะโคลิมบารี่ (Kolymbari Crete)

เกาะเล็ก ๆ บนดินแดนแห่งเทพนิยายนี้ อุดมไปด้วยไร่ต่าง ๆ มากมาย เช่น ไร่องุ่น ไร่มะกอก นี่เองจึงทำให้เกาะนี้มีระบบนิเวศน์ที่มีความสมบูรณ์อย่างมาก และมีองุ่นรวมถึงมะกอกให้ไปทำเป็นน้ำมันประกอบอาหารที่สด ใหม่ ไร้สารพิษได้ตลอดทั้งปี


14. ประเทศเคนย่า (Kenya)

ที่ประเทศเคนย่า จัดเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าจะมีบ้านอยู่ที่นี่ไว้สักหลังหนึ่ง เพราะที่นี่มีเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชนเผ่าพื้นเมือง เหล่าบรรดาสัตว์นานาชนิด และความงดงามตามธรรมชาติ เมื่อได้ลองมาเยี่ยมเยือนที่นี่สักครั้ง ก็จะต้องชื่นชอบและติดใจกันอย่างแน่นอน


15. ประเทศสโลวีเนีย (Slovenia)

หลังจากที่แยกตัวออกมาจากสาธารณะรัฐเช็กแล้ว ชื่อของประเทศสโลวีเนียก็เป็นที่ชินหูของใครหลาย ๆ คน เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่มีความน่าสนใจอยู่มากมาย และมีการเปรียบเทียบว่าที่นี่คือ "นิวซีแลนด์ของทวีปยุโรป" เลยทีเดียว นอกจากนี้ สโลวีเนียยังขึ้นชื่อในเรื่องของคุณภาพไม้ที่มีความคงทน แข็งแรง และสวยงาม เหมาะแก่การนำไปใช้ทำสิ่งปลูกสร้างหรือตกแต่งบ้านมาก ๆ


16. ประเทศเวียดนาม (Vietnam)

ค่าครองชีพที่ถูก วิถีชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย พร้อมด้วยแหล่งธรรมชาติต่าง ๆ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ถือเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้เดินทางเข้ามาอยู่ เป็นประจำไม่ขาดสาย


17. เมืองอิบิซ่า ประเทศสเปน (Ibiza, Spain)

เรียกว่าเป็นเมืองของงานปาร์ตี้ของทวีปยุโรปเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เป็นเมืองติดทะเล และแสงสียามค่ำคืนที่สนุกสนาน เมืองอิบิซ่านี้จึงต้อนรับผู้คนจากหลากหลายประเทศทั่วโลกมากมายอย่างไม่ขาด สาย ขนาดพระเอกคนดังของวงการฮอลลีวู้ดอย่าง "ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ" ก็ยังเคยเดินทางมาที่นี่แล้วเช่นกัน


18. เกาะนิวพอร์ต โร้ด ประเทศสหรัฐอเมริกา (Newport Rhode Island, United States)

เคยคิดอยากจะล่องเรือ นอนอาบแดดบนดาดฟ้าเรือกลางทะเล หรือจะดำน้ำแบบส่วนตัวสุด ๆ อยู่บ้างหรือ ถ้าเคยเกาะนิวพอร์ต โร้ดนี้เหมาะมากที่จะทำตามที่ได้กล่าวมา อีกทั้งความสะดวกสบายและความหรูหราต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะให้บริการคุณอยู่เช่นกัน


19. เมืองอีสตันบูล ประเทศตุรกี (Istanbul, Turkey)

หากลงทุนมาซื้อบ้านสักหลังที่นี่ ขอรับรองได้เลยว่าจะต้องชื่นชอบในดินแดนแห่งนี้แน่ ๆ ทั้งการผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมของเอเชียและยุโรป อาหารการกินที่หลากหลาย ความอลังการของสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ของตุรกี ก็มีปรากฎให้เห็นอยู่ทั่วไปในเมืองแห่งนี้เช่นกัน


20. เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย (Bali, Indonesia)

ทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาที่รายล้อม โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่เพียบพร้อมในการบริการทุก ๆ ด้าน อาหารก็สดใหม่ เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวแบบพิเศษสุด ๆ และวัฒนธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหล่านี้คือเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้มีนักท่องเที่ยวประทับใจและเดินทางมาที่นี้อยู่ตลอดทั้งปี

วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

10 บันไดสวยๆ จากทั่วโลก

1. Spiral Stair (ออสเตรเลีย)
 
บันไดวนที่ Garvan Institute ในซิดนีย์ ออสเตรเลีย
2. Spiral Staircase ที่  Vatican Museum (อิตาลี)
 
เป็นหนึ่งในบันไดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลกและแน่นอนว่าก็ต้องสวย
ที่สุดด้วยเช่นกัน ออกแบบโดย Giuseppe Momo ในปี 1932  โดยแยก
เป็นสอสงเกลียว อันหนึ่งจะทางขึ้นและอีกอันจะเป็นทางลง และมาหมุน
รวมกันเป็นเกลียวเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่แทนถึงชีวิตเหมือนเกลียว DNA
3. Loretto Chapel Staircase (สหรัฐอเมริกา)
 
Loretto Chapel   เป็นโบสถ์ในแซนตาเฟ  รัฐนิวเม็กซิโก  สหรัฐอเมริกา
บันไดวนที่แปลก เป็นงานไม้ที่ได้รับการยอมรับ และน่าประทับใจ  เพราะ
ตรงกลางไม่มีอะไรมารองรับ (ส่วนที่รองรับมาเพิ่มในภายหลัง)   และไม่
ใช้ตะปู ไม่มีการผูกติดกับกำแพงหรือเสาใดๆ ตั้งแต่แรก
4. Tulip Staircase ที่ the Queen's House (อังกฤษ)
 
เป็นบันได้วนเรขาคณิตที่สามารถรับน้ำหนักตัวเองได้แห่งแรกในอังกฤษ
5. Staircase ที่ Lello Bookshop (โปรตุเกส)
http://www.img1.desicolours.net/2009/august/unique-bookshop-02.jpg
บันไดขนาดใหญ่ ที่น่าสนใจในร้านหนังสือ Lello ในโปรตุเกส   ที่ดูหนัก
และน่ากลัว บันไดที่เหมือนมีสองช่องแล้วหมุนมารวมกันที่จุดเดียว
6. San Francisco's Tiled Steps
    บันไดโมเสกที่ยาวที่สุดในโลก (สหรัฐอเมริกา)
 
The 16th Avenue Tiled Steps ตั้งอยู่ถนนสายที่ 16 Moraga ในซาน
ฟรานซิสโก บางทีอาจจะเป็นบันไดโมเสกที่ยาวที่สุดในโลก (163 ขั้น)
คิดและสร้างโดย Aileen Barr ชาวไอริชและ Colette Crutcher ศิลปิน
โมเสกซานฟรานซิสโก ตลอดสองปีครึ่งที่กลุ่มได้พยายาม และขออนุ-
ญาติรัฐให้อนุมัติโครงการจนสำเร็นในเดือนสิงหาคม2005 กระเบื้องทำ
ด้วยมือกว่า 2,000 ชิ้น และกระเบื้องชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกกว่า75,000 ชิ้น
กระจกและสเตนกลาสที่นำมาใช้จนเสร็จ
7. "Umschreibung" ที่ KPMG Building Munich (เยอรมัน)
 
บันไดที่ออกแบบโดย  Olafur Eliasson   ถูกเรียกว่า Umschreibung
สร้างเสร็จในปี 2004 ในลานของ KPMG ในมิวนิก
8. บันไดในร้าน Longchamp (นิวยอร์ก)
 
ใช้เวลาถึงหกเดือนในการก่อสร้าง บันไดน้ำหนัก 55 ตัน เหมือนริบบิ้นที่
ซ้อนกัน
9. Vertigo Staircase ที่ QVB Building (ออสเตรเลีย)
 
ในรูปคือบันไดหลักใน Grand Queen Victoria Building ในซิดนีย์  ตึก
ที่รู้จักในชื่อ QVB ออกแบบโดย George McRae  สร้างเสร็จในปี 1898
สถาปัตยกรรมแบบ Romanesque อันประณีต  ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องจ้าง
ช่างฝีมือ ช่างก่อ ช่างปูน และศิลปินมากมาย
10. Bridge-stair ที่ Traversinertobel (สวิตเซอแลนด์)
 
สะพานเหนือ Traversinertobel หุบเขาแห่ง Via Mala เป็นโครงสร้างล่า
สุดที่ออกแบบโดยวิศวกร Jürg Conzett  เพื่อแก้ปัญหาช่องเขาที่ต่างระ-
ดับกัน มีความยาว 56 เมตรและความสูงที่ต่างกัน 22 เมตรระหว่างปลาย
ที่สองข้าง