วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

ภัยเงียบจากกล่องโฟม… กินสบายแต่ตายเร็ว

หลาย คนคงเคยชินกับการรับประทาน อาหารแบบใส่กล่องโฟมกันใช่ไหมล่ะ เพราะสะดวก รวดเร็ว กินที่ไหนก็ได้ ประหยัดเวลาทำอาหาร และที่สำคัญทานเสร็จก็ไม่ต้องล้างอีกด้วย แต่เพื่อน ๆ เชื่อหรือไม่คะว่า ท่ามกลางความสะดวกสบาย กล่องโฟมก็แฝงไปด้วยภัยร้ายที่อาจคร่าชีวิตคุณได้ในที่สุด

โดย นพ.วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัทบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความรู้ว่า กล่อง โฟมที่ใช้ตามท้องตลาดทั่วไป (Styrofoam) เป็นของเสียเหลือทิ้งสีดำ ๆ จากกระบวนการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ประกอบด้วยสารสไตรีน (Styrene) มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในเพศหญิง




อาหารตามสั่ง ที่บรรจุกล่องโฟม จึงเป็นแหล่งสะสมสารสไตรีน ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ทำให้สมองมึนงง สมองเสื่อมง่ายหงุดหงิดง่าย มีผลทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ และเป็นสารก่อมะเร็งอีก 3 ชนิด ถ้าเป็นผู้ชายรับประทานเข้าไปมาก ๆ มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ขณะที่ผู้หญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม และทั้งสองเพศมีโอกาสสูงต่อการเป็นมะเร็งตับ แม้จะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำก็ตาม

สำ หรับสไตรีน ถือเป็นสารอันตรายที่สหรัฐฯ เพิ่งประกาศขึ้นบัญชีสารก่อมะเร็ง หญิงมีครรภ์ที่รับประทานอาหารบรรจุในกล่องโฟม ลูกมีโอกาสสมองเสื่อมเป็นเอ๋อ อวัยวะบางส่วนพิการ ส่วนคนทั่วไปถ้ารับประทานอาหารกล่องโฟมทุกวัน วันละอย่างน้อย 1 มื้อ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งสูงกว่าคนปกติถึง 6 เท่า



ทั้งนี้ ผู้บริโภคมีโอกาสได้รับสารสไตรีนในกล่องโฟมได้ง่ายถึง 5 ปัจจัยได้แก่ 1. อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ทำให้สไตรีนซึมเข้าสู่อาหารได้สูง
2. ถ้าปรุงอาหารโดยใส่น้ำมัน น้ำส้มสายชูแอลกอฮอล์ จะดูดสารสไตรีนจากกล่องโฟมได้มากกว่าปกติ
3. ถ้าซื้ออาหารใส่กล่องทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ได้รับประทาน อาหารจะดูดสารสไตรีนได้มาก
4. ถ้านำอาหารที่บรรจุโฟมเข้าไมโครเวฟ สไตรีนจะไหลออกมาในปริมาณมาก
5. ถ้าอาหารสัมผัสพื้นที่ผิวกล่องโฟมมาก ๆ รวมถึงร้านไหนตัดถุงพลาสติกใสรองอาหาร ขอบอกว่าได้รับสารก่อมะเร็ง 2 เด้ง ทั้งสไตรีนและไดออกซินจากถุงพลาสติกเลยทีเดียว

นพ.วีรฉัตร กล่าวเตือนด้วยว่า อาหาร ตามสั่งหรือข้าวราดแกงกับไข่ดาวหรือไข่เจียวร้อน ๆ อาจจะไปละลายผนังกล่องโฟม เสมือนรับประทานอาหารคลุกสไตรีนไปด้วย ถึงกระนั้นไข่ดิบที่วางขายในแผงไข่พลาสติก สารสไตรีนมีโอกาสวิ่งเข้าในเปลือกไข่ได้เช่นกัน ถ้าเลือกไข่ดิบควรเลือกซื้อจากแผงไข่กระดาษจะปลอดภัยที่สุด

ยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วโลกสร้างสถิติทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์



ยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วโลกสร้างสถิติทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ว่า ยอด จำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วโลกประจำปีที่แล้วเพิ่มสูงขึ้นกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐครั้งแรก เท่ากับว่าสามารถนำมาประกอบอาหารเลี้ยงประชากรทั่วทั้งโลกได้ครบ 3 มื้อนานกว่า 1 เดือน

รายงานที่จัด ทำโดยสมาคมผู้ประกอบธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของญี่ปุ่น ( ดับเบิ้ลยูไอเอ็นเอ ) ระบุว่า ปริมาณการจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วโลกประจำปีที่แล้วอยู่ที่กว่า 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.06 ล้านล้านบาท ) โดยจีน ซึ่งรวมถึงเขตบริหารพิเศษฮ่องกงครองแชมป์ผู้บริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสูง ที่สุดประจำปีที่แล้ว ด้วยปริมาณการนำเข้าและจำหน่ายที่สูงกว่า 44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.27 ล้านล้านบาท ) รองลงมาคืออินโดนีเซีย 14.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.08 แสนล้านบาท ) ตามด้วยญี่ปุ่น 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.56 แสนล้านบาท ) และเวียดนาม 5.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1.47 ล้านล้านบาท )

นายโนริโอะ ซากูราอิ นักวิเคราะห์ของดับเบิ้ลยูไอเอ็นเอ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองโอซากา กล่าวว่า ตัวเลขที่ออกมาสะท้อนให้เห็นว่า การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
บะหมี่ กึ่งสำเร็จรูปมีต้นกำเนิดที่ญี่ปุ่น ได้รับการคิดค้นและพัฒนาเป็นครั้งแรกโดยนายโมโมฟูคุ อันโด นักวิจัยของบริษัท นิชชิน ฟู้ดส์ ก่อนออกวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2501 ในชื่อ “ชิคิน ราเมน”