วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เจ้าหญิงเคททรงมีพระประสูติกาลพระโอรส

เจ้าหญิงเคทมีพระประสูติกาลพระโอรส
เจ้าหญิงเคทมีพระประสูติกาลพระโอรส น้ำหนัก 3.8กก.เป็นรัชทายาทลำดับที่3 อังกฤษเตรียมจัดงานฉลอง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักพระราชวังเคนซิงตันแห่งอังกฤษ ออกแถลงการณ์ ว่าเจ้าหญิงแคเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ มีพระประสูติกาลพระโอรสเมื่อเวลา 16:24น. วันจันทร์ตามเวลาอังกฤษ หรือ 22:24น. วันเดียวกันตามเวลาประเทศไทย โดยเจ้าชายน้อยจะเป็นรัชทายาทสืบทอดบัลลังก์ลำดับที่ 3
ดร.มาร์คัส เซตเชล นรีแพทย์ประจำพระองค์ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ทำคลอดให้เจ้าหญิงเคทถูกราชองครักษ์นำไปยังพระราชวัง บักกิ้งแฮม จากโรงพยาบาลเซนต์แมรี ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ที่ลานหน้าพระราชวัง มีการติดประกาศว่า ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ มีพระประสูติกาลพระโอรส เมื่อเวลา 16:24น. พระโอรสมีน้ำหนัก 8.6 ปอนด์ (ราว 3.8 กก.) ทั้งสองพระองค์มีพระวรกายแข็งแรงดี
ขณะสมเด็จพระราชินี, เจ้าชายฟิลิปดยุคแห่งเอดินเบอระ , เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เจ้าชายแห่งเวลส์, เจ้าหญิงคามิลลา ดัชเชสแห่งคอนวอลล์, เจ้าชายแฮรี และเชื้อพระวงศ์องค์อื่นๆ ทรงทราบเรื่องพระประสูติกาลและร่วมยินดีไปกับข่าวนี้
นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ทวีตลงเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า ขอแสดงความยินดีแด่ดยุคและดัชเชสทั้งสอง ที่ตอนนี้พระโอรสของพระองค์ประสูติแล้ว ทั่วทั้งประเทศจะร่วมเฉลิมฉลอง ทั้งสองพระองค์จะเป็นพระบิดา และพระมารดาที่ยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ เจ้าชายน้อยจะดำรงพระอิสริยยศเป็น เจ้าชายแห่งเคมบริดจ์ และรัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ถัดจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์พระอัยกา (ปู่) และเจ้าชายวิลเลียมพระบิดา
ส่วนเรื่องพระนามของสมาชิกใหม่แห่งราชวงศ์วินเซอร์องค์นี้ แม็กซ์ ฟอสเตอร์ ผู้สื่อข่าวในราชสำนักของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเชื่อว่า จะมีการประกาศพระนามของเจ้าชายน้อยเมื่อดยุคและดัชเชสเสด็จออกจากโรงพยาบาล แล้ว


 "เจ้าหญิงเคท" ทรงมีพระประสูติกาลพระโอรส

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

"หมั่นโถว"




"หมั่นโถว" หรือแป้งนึ่งก้อนกลมๆ สีขาวไม่มีไส้ ที่นิยมกินกับขาหมูนั้นก็มีที่มาและตำนานกับเขาด้วยเหมือนกัน
ตำนาน ของหมั่นโถวก็มีอยู่ว่า ในสมัยสามก๊ก (ค.ศ.220-280) ชนพื้นเมืองทางใต้ของแคว้นสู่ที่เรียกตนเองว่า "หนันหมัน" ชอบก่อความวุ่นวายโดยยกทหารมาโจมตีแคว้นสู่อยู่บ่อยครั้ง ครั้งหนึ่งหัวหน้าเผ่านามว่าเมิ่งฮั่วนำทัพมา จูเก๋อเลี่ยงหรือขงเบ้งจึงต้องนำทหารออกปราบปรามด้วยตนเองจนได้ชัยชนะ และได้กวาดต้อนเชลยกลับมาด้วย

เมื่อเดินทางมาถึงแม่น้ำหลูซุ่ย ซึ่งเป็นแดนเถื่อนไม่มีผู้คนอาศัย แถมอากาศก็เป็นพิษไม่สะอาด จึงมีผู้เสนอความคิดให้บั่นหัวเชลยศึกเผ่าหนันหมัน นำมาเซ่นไหว้บูชาเทพเจ้าประจำแม่น้ำสายนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ เหล่าทหาร แต่ขงเบ้งไม่เห็นด้วย จึงคิดอุบายนำแป้งมาปั้นเป็นรูปหัวคนห่อไส้เนื้อแกะและวัวและนำไปนึ่ง แล้วนำไปเซ่นไหว้บูชาแม่น้ำแทน ครั้งนั้นทหารจึงเดินทางข้ามแม่น้ำมาได้โดยปลอดภัย

นับแต่นั้นแป้งนึ่งก้อนกลมนี้จึงก็ถูกเรียกว่า "หมั่นโถว" ซึ่งแปลว่า หัวเชลยเผ่าหมัน และทำตกทอดกันมาจนแพร่หลายไปทั่ว โดยในอดีตนั้นหมั่นโถวยังเป็นแบบมีไส้และมีขนาดใหญ่ แต่มาปัจจุบันหมั่นโถวในแต่ละท้องถิ่นก็มีการปรุงแตกต่างกันไปสารพัดแบบ

บ้าง ก็ไม่ยึดถือตามตำนานนี้ เพราะเชื่อว่าหมั่นโถวมีมาตั้งแต่ยุคชุนชิว-จั้นกั๋ว (770-221 B.c.) เพราะเวลานั้นชาวจีนรู้จักการใช้ครกสากและโม่ และมีการนำรำข้าวสาลีมาผลิตเป็นอาหารแล้ว
แต่ไม่ว่าหมั่นโถวจะเกิดมาตั้งแต่ยุคสมัยไหน ก็ยังเป็นของกินอร่อยได้จนมาถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

นอนดึก-ตื่นเช้า กินอะไรให้สดชื่น


ใคร ที่ชอบนอนดึกตื่นเช้า จะด้วยภาระหน้าที่การงาน ติดหนังติดละคร นอนดูบอลยามดึก กว่าจะได้ล้มตัวลงนอนก็ปาเข้าไปค่อนคืน แถมยังต้องตื่นแต่เช้ามาผจญกับวันใหม่ ยังไงๆ ก็ต้องง่วงหงาวหาวนอนกันเป็นธรรมดา แถมยังทำให้ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่าเหมือนกับวันที่พักผ่อนเต็มที่อีกด้วย
       
       และ อาหารที่กินเข้าไปก็เป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ความสดชื่นกลับมาเยือนอีก ครั้ง “108 เคล็ดกิน” ก็มีคำแนะนำสำหรับผู้ที่อยากสดชื่นในยามเช้า เริ่มต้นจากสิ่งที่ไม่ควรกินกันก่อน นั่นคือ อาหารทอด หรืออาหารมัน อาหารเค็มจัด และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้จะยิ่งทำให้อาการนอนน้อยแย่ลงไปอีก
       
       ส่วนอาหารที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายก็คือ อาหารพวกผัก ผลไม้ อาหารจำพวกนี้จะมีโครเมียม ที่ช่วยให้รักษาระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย โดยเฉพาะในแอปเปิ้ล กล้วย และมันฝรั่ง
       
       อาหารที่มีวิตามินบี และซี วิตามิน บีจะช่วยลดอาการนอนไม่หลับ ช่วยให้สมองผ่อนคลาย และทำให้ประสาทตื่นตัว พบมากในข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ ไข่ เนื้อสัตว์ เป็นต้น ส่วนวิตามินซี จะช่วยต้านความเหนื่อยล้าของร่างกาย สร้างภูมิต้านทาน พบมากในผักและผลไม้สด และผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าจากความเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดด้วย
       
       ควรกินอาหารเบาๆ ย่อยง่ายๆ กระเพาะ จะได้ไม่ต้องทำงานหนักมากเกินไป อย่างเช่น กินเนื้อปลา จะได้โปรตีนที่ย่อยง่าย ได้รับไขมันชนิดดี เช่นโอเมก้า 3 ที่จะช่วยบำรุงสมอง สร้างสมาธิและความจำให้ดีขึ้นเวลาอดนอน กินถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวซ้อมมือ จมูกข้าวสาลี และธัญพืชต่างๆ นอกจากจะย่อยง่ายแล้ว ก็ยังมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมที่ช่วยบำรุงประสาท และช่วยให้จิตใจแจ่มใสสดชื่น
       
       สุดท้าย ต้องดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อ เรียกความสดชื่นให้กลับคืนมา การที่พักผ่อนไม่เพียงพอจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ และอาจเกิดอาการร้อนใน การดื่มน้ำเข้าไปชดเชยให้เพียงพอนั้นจะช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลเข้าสู่ภาวะ ปกติได้ และกลับมาสดชื่นเหมือนเดิม
       
       แต่ข้อสำคัญ ก็ไม่ควรนอนน้อยเกินไป หรืออดนอนบ่อยๆ เพราะจะทำให้ร่างกายทรุดโทรม หน้าตาไม่ผ่องใส ไม่สดชื่น