หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ซึ่งถือว่าเป็นดินแดนทะเลอาถรรพ์
มักจะมีเรื่องเล่าของเรือและเครื่องบินที่สูญหายไปอยู่เป็นประจำ
แต่ล่าสุดทางสหรัฐอเมริการะบุว่าสามารถไขปริศนาได้แล้ว
สำนักงานสภาพอากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐฯ
ได้เปิดเผยว่าสาเหตุเรื่องของเรือและเครื่องบินที่มักจะหายไปตั้งแต่ในช่วง
ปี 1492 เป็นต้นมา และมีข่าวลือว่าเกิดจากพลังงานลึกลับ หรือมนุษย์ต่างดาว
แท้จริงแล้วเป็นเพียงเรื่องของธรรมชาติเท่านั้น โดยอธิบายว่า
“สามเหลี่ยมเบอร์มิวดามักจะถูกพูดถึงในฐานะพื้นที่ปริศนาสำหรับ
มนุษย์ แต่ที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานว่าการอันตรธานไปของสิ่งต่าง ๆ
นั้นมีสาเหตุมาจากการถูกคลื่นความถี่ประหลาดดูดกลืน
เครื่องบินและเรือที่หายไปล้วนแล้วแต่ประสบอุบัติเหตุจากความแปรปรวนรุนแรง
ของสภาพอากาศ เฮอริเคน และพายุโซนร้อนที่มักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ
บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
นี่คือปัจจัยที่ทำให้พื้นที่นี้อันตรายและเต็มไปด้วยหายนะ ทุกอย่างมีคำอธิบายในเชิงฟิสิกส์ ไม่ใช่เรื่องลึกลับ ไม่ได้เกิดจากมนุษย์ต่างดาวหรือพลังงานปริศนาที่มองไม่เห็น
เรื่องลึกลับเกี่ยวกับสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาที่หลายคนพูดกันมาน่าจะเป็นเพียง
เรื่องเล่าหรือตำนานเท่านั้น
โดยปกติท้องทะเลเป็นพื้นที่ลึกลับสำหรับมนุษย์อยู่แล้ว
ยิ่งมีสภาพอากาศแปรปรวนและทัศนวิสัยเลวร้าย
ก็ยิ่งทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่หายนะได้”
ผลการรายงานนี้ออกมาตรงกับกองทัพเรือของอเมริกา และหน่วยป้องกันชายฝั่งสหรัฐอเมริกา
ซึ่งบอกว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้มีความผิดปกติหรือลึกลับ
ยังขับเรือผ่านอย่างปกติ แต่อาจจะเป็นเพราะการเกิดพายุอย่างรุนแรงในบางช่วง
ที่ทำให้เรือในอดีตที่เทคโนโลยียังไม่สูงนั้นอับปางลง…
วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
เทคนิคการอ่านหนังสือประเภทต่างๆ
วันนี้ มีเทคนิคในการอ่านหนังสือแต่ละประเภทมาแนะนำให้เลือกใช้กันค่ะ เพื่อให้การอ่านหนังสือมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น
วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์: ไม่ควรอ่านตะลุยเรื่อยๆ รวดเดียวจบเล่มควรอ่าน แล้วหยุดพักเป็นตอนๆไปเรื่อยๆ
ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ : ควรอ่านตะลุยรวดเดียวไปจนจบเพื่อให้เรื่องราวสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน
วรรณคดี : อ่านอย่างรอบคอบถี่ถ้วน อ่านช้าๆไม่รีบเร่งปล่อยอารมณ์ให้คล้อยตามคําบรรยาย ถ้าอ่านเพื่อศึกษาควร มีการวิเคราะห์เรื่องราว บทบาทของตัวละครตลอดจนส่วนอื่นๆของวรรณคดี
นิตยสารและหนังสือพิมพ์ ควรใช้วิจารณญาน พิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ใช่ เชื่อทุกอย่างตามที่ข่าวรายงาน
ใครชอบอ่านหนังสือประเภทไหนก็ลองนำเทคนิคข้างบนไปใช้กันดูนะคะ
วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
หูอื้อบ่อยๆ
โดย ปกติการขึ้นที่สูง หรือขึ้นเครื่องบินแรงดันอากาศจะเปลี่ยน บางครั้งหากมีการเปลี่ยนแรงดันที่ค่อนข้างเร็ว หูจะปรับได้ช้ากว่าปกติ ซึ่งต้องอาศัยการกลืนน้ำลาย การเป่าปาก หรือขยับคอ เพื่อให้ท่อปรับความดันหูเปิดก็จะสามารถปรับความดันได้ ถ้าอาการหูอื้อเป็นแบบชั่วคราว สามารถหายได้โดยการกลืนน้ำลาย ซึ่งไม่มีอันตรายใด ๆ ต้องกังวล
แต่ ถ้าอาการหูอื้อคงอยู่ตลอดเป็นวัน ร่วมกับอาการปวด มีเสียงผิดปกติในหูเกิดขึ้น อย่างนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ เนื่องจากอาจเป็นอาการของหูชั้นกลางอักเสบเยื่อแก้วหูผิดปกติ หรือเส้นประสาทหูเสื่อมเฉียบพลันได้
สรุป แล้วถ้าเราหูอื้อแบบชั่วคราวเวลาขึ้นลิฟต์ ขึ้นเครื่องบิน แค่กลืนน้ำลายก็หายไปได้เอง แบบนี้ไม่น่ากังวลใจสักเท่าไรค่ะ แต่ถ้าอาการหนักกว่านี้ แถมยังปวดหู ด้วย ต้องปรึกษาแพทย์แล้วล่ะ
วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557
จีนทุ่มสร้างเรือไททานิคในสวนสนุก จัดเต็มเอฟเฟกต์ชนแล้วจม
บริษัทจีนเตรียมทุ่ม 5 พันล้าน สร้างเรือไททานิคในสวนสนุก ให้คนสัมผัสประสบการณ์ระหว่างเรือถูกชนด้วยการใช้เทคนิคแสงสีและเสียง
เมื่อ
วันที่ 14 มกราคม 2557 เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า
บริษัทจีนรายหนึ่งเตรียมทุ่มทุนกว่า 5 พันล้านบาท
สร้างเรือไททานิคจำลองขนาดเท่าของจริงในสวนสนุก
พร้อมให้นักท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์ชนแล้วจม
ผ่านเอฟเฟกต์แสงสีและเสียงน้ำ
บริษัทแห่งนี้คือ เซเว่น สตาร์
อีเนอร์จี อินเวสต์เมนท์ ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12
มกราคมที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทกำลังจะจับมือกับบริษัทอเมริกันแห่งหนึ่ง
ในการออกแบบและสร้างเรือไททานิคขนาดเท่าของจริง ณ สวนสนุกเมืองต๋าอิ๋ง
มณฑลเสฉวนของจีน โดยจะใช้งบประมาณ 5 พันล้านบาท เนรมิตเรือไททานิคในสวนสนุก
พร้อมกับมีการจำลองฉากขณะชนภูเขาน้ำแข็ง ก่อนจะจมลงในน้ำด้วย
ซึ่งเมื่อเรือชนภูเขาน้ำแข็งแล้ว
เรือจำลองนี้ก็จะสั่นสะเทือนเหมือนกำลังจมลงจริง ๆ นอกจากนี้
จะมีการเนรมิตเสียงและเอฟเฟกต์แสงสี
เพื่อให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าน้ำกำลังเข้ามาในเรือจริง ๆ ด้วย
ส่วน
เรื่องระยะเวลาในการสร้างนั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี
หลังจากเริ่มสร้าง อย่างไรก็ดี ทางเซเว่น สตาร์ อีเนอร์จี อินเวสต์เมนท์
ไม่ได้ระบุว่าจะเริ่มสร้างเรือลำนี้กันเมื่อไหร่
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557
อาหารต้องห้ามขณะท้องเสีย
เวลา ท้องเสียมันแสนทรมานจริงๆ จะทานนู่นก็ไม่ได้ ทานนี่ก็ไม่ได้ เพราะกลัวอาการจะยิ่งหนักขึ้น ถ้าเช่นนั้นมาจำกันไว้ดีกว่า ว่าถ้าท้องเสียขึ้นมา อะไรทานได้ อะไรทานไม่ได้บ้าง
สำหรับคนท้องเสียเรื้อรัง มักจะมีอาการปวดท้อง และถ่ายเหลว ซึ่งจะเป็นๆ หายๆ บางคนเรียกว่า คนธาตุอ่อน อาหารต้องห้าม คือ อาหารจำพวกรสเผ็ด เปรี้ยว ของทอดของมัน เหล้า เบียร์ นมสด ชา กาแฟ น้ำส้ม สายชู และกะทิ เป็นต้น
ส่วนอาหารที่ควรกิน ก็คืออาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืชต่างๆ รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ มีจุลินทรีย์ชนิดแล็คโตบาซิลลัส หรือไบฟิโดแบคทีเรีย เป็นส่วนผสมอยู่ด้วยจะดีมาก นอกจากนั้นการกินอาหารในแต่ละครั้งก็ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ และควรเคี้ยวให้ละเอียดค่ะ
สำหรับอาการท้องเสียฉับพลัน เป็นอาการที่จะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้ มีลักษณะถ่ายเหลวเป็นน้ำ และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย ไม่ควรทาน ผัก ผลไม้ และน้ำผลไม้
ส่วนอาหารที่ควรกิน ก็คือผงน้ำตาลเกลือแร่ ชงน้ำ เพราะเวลาที่เราท้องเสียร่างกายจะสูญเสีย เกลือแร่ ดังนั้นเราหมั่นดื่มเกลือแร่บ่อย ๆ แทนน้ำค่ะ นอกจากนั้นควรกินอาหารที่ย่อยง่ายอย่างเช่นโจ๊ก ข้าวต้ม เป็นต้น
เชื่อ ว่าการที่เราเลือกรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีในขณะที่ท้องเสียจะช่วย ให้ลำไส้ไม่ต้องทำงานหนัก อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)