วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก จัดโดย CNN


มัสมั่น อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก จัดโดย CNN Go (World’s 50 most delicious foods 2011)


เว็บไซท์ CNNgo.com (21 July 2011) จัดอันดับ อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก 50 รายการ โดยที่ แกงมัสมั่น ของไทย เป็นที่หนึ่งในโลก
นอกจากนี้ยังมีอาหารไทยอีก 3 รายการ คือ ต้มยำกุ้ง ติดอันดับ 8, น้ำตกหมู (หมูน้ำตก) ติดอันดับ 19 และ ส้มตำ ติดอันดับ 46
  1. Massaman curry, Thailand (แกงมัสมั่น)
    Emphatically the king of curries, and perhaps the king of all foods. Spicy, coconutty, sweet and savory, its combination of flavors has more personality than a Thai election.Even the packet sauce you buy from the supermarket can make the most delinquent of cooks look like a Michelin potential. Thankfully, someone invented rice, with which diners can mop up the last drizzles of curry sauce.“The Land of Smiles” isn’t just a marketing catch-line. It’s a result of being born in a land where the world’s most delicious food is sold on nearly every street corner. 
  2. Neapolitan pizza, Italy
  3. Chocolate, Mexico
  4. Sushi, Japan
  5. Peking duck, China 
  6. Hamburger, Germany
  7. Penang assam laksa, Malaysia
  8. Tom yum goong, Thailand (ต้มยำกุ้ง)
    This Thai masterpiece teems with shrimp, mushrooms, tomatoes, lemongrass, galangal and kaffir lime leaves. Usually loaded with coconut milk and cream, the hearty soup unifies a host of favorite Thai tastes: sour, salty, spicy and sweet. Best of all is the price: cheap. 
  9. Ice cream, United States
  10. Chicken muamba, Gabon
  11. Rendang, Indonesia
  12. Shepherd’s pie, Britain
  13. Corn on the cob, global
  14. Donuts, United States
  15. Kalua pig, United States
  16. Egg tart, Hong Kong
  17. Lobster, global
  18. Kebab, Iran
  19. Nam tok moo, Thailand (หมูน้ำตก)
    Grilled pork combined with lemon juice, green onions, chili, mint sprigs, fish sauce and toasted rice. Legend has it the blood from the meat along with the dressing inspired some happy carnivore to name this brilliant dish “waterfall (nam tok moo) meat.” 
  20. Arepas, Venezuela
  21. Croissant, France
  22. Brownie and vanilla ice cream, global
  23. Lasagna, Italy
  24. Champ, Ireland
  25. Butter garlic crab, India
  26. Fajitas, Mexico
  27. Montreal-style smoked meat, Canada
  28. Pho, Vietnam
  29. Ohmi-gyu beef steak, Japan
  30. Goi cuon (summer roll), Vietnam
  31. Parma ham, Italy
  32. Ankimo, Japan
  33. Fish ‘n’ chips, Britain
  34. Maple syrup, Canada
  35. Chili crab, Singapore
  36. Texas barbecue pork, United States
  37. Chicken parm, Australia
  38. French toast, Hong Kong
  39. Ketchup, United States
  40. Marzipan, Germany
  41. Stinky tofu, Southeast Asia
  42. Buttered toast with Marmite, Britain
  43. Tacos, Mexico
  44. Poutine, Canada
  45. Chicken rice, Singapore
  46. Som tam, Thailand (ส้มตำ)
    To prepare Thailand’s most famous salad, pound garlic and chilies with a mortar and pestle. Toss in tamarind juice, fish sauce, peanuts, dried shrimp, tomatoes, lime juice, sugar cane paste, string beans and a handful of grated green papaya.Grab a side of sticky rice. Variations include those made with crab (som tam boo) and fermented fish sauce (som tam plah lah), but none matches the flavor and simple beauty of the original. 
  47. Seafood Paella, Spain
  48. Potato chips, United States
  49. Masala dosa, India
  50. Buttered popcorn, United States

9 เรื่อง ที่มีแต่ประเทศไทยเท่านั้น Thailand Only !



1. ประเทศไทย….ทำไมมีสีประจำวัน ?
ขอบอก ว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่รู้มาก่อนเลยจริง ๆ  จนวันหนึ่งซึ่งเป็นวันศุกร์ใส่เสื้อสีฟ้า ก็มีเพื่อนต่างชาติคนนึงถามว่าทำไมใส่เสื้อสีฟ้าล่ะ ก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร  จริง ๆ ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่ใส่แล้วสวย (กล้าพูด) เลยตอบไปว่า ก็วันนี้เป็นวันศุกร์ไงล่ะ เพื่อนก็งงใหญ่ว่า แล้วทำไมล่ะ วันศุกร์เกี่ยวอะไรกับสีฟ้า  สรุปคุยกันยาวววจนสรุปได้ว่า ที่ประเทศอื่น ๆ เค้าไม่ค่อยมีสีประจำวันเหมือนบ้านเรา ที่วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารสีชมพู เอ๊ะ แล้วใครเป็นคนคิดริเริ่มให้มีสีประจำวันนะ?

2. ประเทศไทย….ทำไมดื่มน้ำอัดลม/เบียร์ ต้องใส่น้ำแข็ง
อัน นี้หลายคนคงอาจจะเคยได้ยินมาจากเดี่ยว 8 แล้ว (ฮามาก) เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมต่างประเทศเค้าถึงดื่ม น้ำอัดลมกันแบบไร้น้ำแข็งได้ ซึ่งในทางกลับกับ คนต่างชาติ เค้าก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนไทยถึงต้องดื่มแบบใส่น้ำแข็งด้วยล่ะ  ก็แหม…ประเทศเราเมืองร้อนนี่คะ เอะอะอะไรก็ใส่น้ำแข็งไว้ก่อน 555+

3. ประเทศไทย….ทำไมกินข้าวโพดเป็นของหวาน ?
ประเทศ แถบตะวันตกพวกยุโรป อเมริกา เค้าไม่ถือว่าข้าวโพดเป็นของหวาน แต่ถือว่าเป็นของคาว  น้อยคนมาก ๆ ที่จะเอามานั่งแทะกินเปล่า ๆ หรือหากเอาไปใส่ไอศกรีมนี่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกมาก แต่คนไทยเราเอามานั่งแทะ ๆ กันจนฟันเหยินซะงั้น  แทะไป ดูหนังไป เพลินจะตาย

4. ประเทศไทย….ทำไมอะไร ๆ ก็ ต้องใส่ซอส ?
ไม่ ว่าจะกินอะไร ตั้งแต่ไข่เจียว แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า ไก่ ทอด คนไทยเราต้องมีซอสหรือมีน้ำจิ้มไว้เคียงคู่เสมอ แต่สำหรับในบางประเทศเค้าถือว่าเป็นเรื่องไม่สุภาพเพราะคนทำอาจจะน้อยใจได้ ว่า เอ๊ะ ทำไมต้องใส่น้ำจิ้มอีกล่ะ ที่ฉันทำไปมันไม่อร่อยเหรอ? โดยเฉพาะในร้านอาหารใหญ่ ๆ เช่น ถ้าสั่งพิซซ่ามาแล้วดันไปขอซอสเพิ่ม พ่อครัวอาจจะค้อนใส่ได้นะ

5. ประเทศไทย….ทำไมคนไทยเก่งเลขจัง ?
เพราะ คนไทยชอบจั่ว … เอ๊ย ไม่ใช่  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้ยิน มาหนาหูมาก ๆ ว่า ถ้าเทียบกับพวกฝรั่งแล้ว คนไทยถือว่าเก่งเลขมาก ๆ โดยเฉพาะน้อง ๆ นักเรียนแลกเปลี่ยนชอบมาเล่าให้พี่เป้ ฟังว่า ‘เลข ม.ปลายที่นั่นง่ายประมาณ ม.1ของที่ ไทยเลยค่ะพี่ หนูชอบเรียนเลขเพราะมันง่ายมาก’ เวลา เพื่อนฝรั่งเห็นเราแก้สมการซับซ้อนได้ ทุกคนก็จะ โอ้โห อู้หู  amazing thailand จริง ๆ !

6. ประเทศไทย….ทำไมไม่คิดค่า ถุงหิ้ว ?
เวลา ที่เราไปซื้อของในหลาย ๆ ประเทศทั้งในยุโรปและเอเชีย บางประเทศนั้น ตามร้านค้าต่าง ๆ เค้าคิดค่าถุงหิ้วกันด้วยนะคะ เช่น ถ้าในยุโรปก็จะประมาณ 10 เซนต์ ในเกาหลีใต้ก็จะ 10  วอน อะไรทำนองนี้ค่ะ (อะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นไปเพื่อรณรงค์การลดโลกร้อนนั่นเอง 

7. ประเทศไทย….ทำไมมีวิธีอาบน้ำสารพัด ?
อย่าง ที่รู้ ๆ ว่าฝรั่งไฮโซอาบน้ำกันด้วยฝักบัว ไม่ก็รองน้ำใส่ อ่างแล้วลงไปแช่ แต่คนไทยไม่น้อยหน้าใคร นอกจากฝักบัว หรืออ่างแล้ว เรายังมีขันไว้ตักอาบ มีตุ่มไว้ลงไปแช่อีกด้วย 5555+ เย็นสบาย !!…..มีเพื่อนคนนึงอยู่ต่างจังหวัด เคยรับเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนจากอเมริกามาที่บ้าน (สมมติว่าชื่อซูซี่)  พอถึงเวลาอาบน้ำ ก็พาซูซี่ไปหลังบ้านซึ่งมีตุ่มใส่น้ำและขันวางไว้ ซูซี่ก็บอก  OK I see Don’t worry ไออาบน้ำได้เอง สบายมาก ยูไม่ ต้องห่วง จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ ซักพัก 10 นาทีต่อมา เพื่อนก็เดินกลับไปตามซูซี่ ปรากฏว่า !! ภาพที่เห็นคือน้องซูซี่เล่นลงไปในว่ายน้ำอยู่ในตุ่ม ซะงั้น  55555 สรุปว่าตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีในเมืองไทย  ตุ่มนั้นก็ตกเป็นสมบัติของน้องซูซี่ไปโดยปริยาย

8. ประเทศไทย….ทำไมคนไทยต่อราคากันเก่งจัง ?
เรื่อง ต่อราคานี่ต้องยกให้คนไทยเลยจริง ๆ ต่อได้ต่อดี จาก 99 ต้องเป็น 90 …. จาก 49 ต้องเป็น 40 ….จาก 19 ก็ยังจะต่อให้ได้เป็น 2 อัน 35 ได้มั้ยพี่ ? จนฝรั่งหรือชาติอะไรต่ออะไรที่มาเที่ยวเมืองไทยก็เริ่มจะติดนิสัยนี้ไปด้วย แล้วล่ะค่ะ เผลอ ๆ เดี๋ยวนี้ฝรั่งต่อราคาเก่งกว่าคนไทยซะอีกแน่ะ ถือว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามคนไทยละกันนะ

9. ประเทศไทย….ทำไมกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันเปล่า ๆ แบบไม่ต้ม ?
เรื่อง นี้ก็เป็นอีกเรื่องที่คงฟังกันมาแล้วจากเดี่ยว 8 …. ขอย้ำกันให้ชัด ๆ เลยว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของไทยอร่อยที่สุดในโลก ต้มก็อร่อย กินเปล่า ๆ ใส่พริกใส่น้ำมัน บีบให้แตกแล้วมาจกกินนี่ก็อร่อยสุดๆ เพราะบะหมี่ของเราเส้นเล็ก แต่บะหมี่ของพวกญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกงอะไรอย่างนี้เส้นมันจะใหญ่และหนามาก ๆ เอามากินเปล่า ๆ ไม่ได้แน่นอน แถมยังมีจำกัดแค่ไม่กี่รส เช่น รสไก่ รสต้มยำ รสกิมจิ แต่ของเมืองไทยนี่มีตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ หมูสับ ต้มยำ เป็ดพะโล้ เย็นตาโฟ หมูน้ำตก สุกี้ ต้มโคล้ง พริกเผา โอ๊ยยย…สารพัด สามารถกินได้ไปเป็นเดือน ๆ โดยไม่ซ้ำรส (ถ้าผมไม่ร่วงหมดหัวซะก่อน)


และ นั่นก็คือ เรื่องราวที่เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย Thailand Only !  เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ดูน่ารักและน่าภาคภูมิใจมากเลยใช่มั้ยคะ ? ^^   จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรานี่เอง แต่บางทีอาจจะมองข้ามไปจนคิดไม่ถึง