สาวน้อยกำลังล้างเท้าให้แม่ของเธอ
มีรายงานข่าวในเดือนมีนาคม 2012 ว่ามีสาวน้อยวัย 13 ปีต้องดูแลแม่ปัญญาอ่อนกับพ่อเพียงลำพัง มานานกว่า 7 ปี ซึ่งถือว่าเป็นหน้าที่หนักหนามากสำหรับเด็กวัยเช่นนี้ นอกจากเธอต้องดูแลแม่แล้วเธอยังต้องเรียนหนังสือเฉกเช่นเด็กคนอื่นๆ ซึ่งตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมต้น จากการทราบข่าวจากครอบครัวนี้ผ่านไป 2 เดือนที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวยังคงติดตามความเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ สาวน้อย เฉิง หงหลี่ ดูแลเองเพียงลำพังมาโดยตลอด
พ่อของหลี่ป่วยเป็นปัญญาอ่อนเช่นเดียวกับแม่ของเธอ หากเป็นไม่มากนัก ปัญญาอ่อนของแม่ทำให้ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ส่วนปู่ย่าตายายก็ล้วนเสียชีวิตไปหมดแล้ว พ่อของหลี่ที่ปัญญาอ่อนเพียงเล็กน้อยก็มีหน้าที่ออกไปทำงานนอกบ้าน โดยทิ้งให้แม่อยู่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งหลี่เป็นห่วงว่าใครจะดูแลท่าน
ป้าเพื่อนบ้านกล่าวว่า “หลี่มีอายุเพียงแค่ 13 ปี แต่เธอมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันเสียอีก ”
ในเดือนกันยายน 2011 เธอจำต้องย้ายโรงเรียนซึ่งห่างจากบ้านพ่อ เลยจำต้องเช่าบ้านอยู่ แน่นอนความเป็นอยู่ก็ย่อมลำบากมากขึ้น
หลี่ และแม่อาศัยบ้านเช่าที่มีสภาพทรุดโทรมอยู่ห่างจากโรงเรียนเพียง 200 เมตร โดยเสียค่าเช่าเดือนละ 50 หยวน
เวลา 16:40 กลับมาจากโรงเรียนหลี่รีบต้มน้ำเพื่อสระผมบริเวณนอกบ้าน เพราะในบ้านไม่มีท่อระบายน้ำให้แม่ก่อนที่จะทำการบ้าน
หลี่ตั้งใจทำอาหารที่แม่เธอชอบ
อาหารค่ำที่แม่กับเธอต้องร่วมกัน ซึ่งมีกับข้าวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แม้งานบ้านจะมากมายนัก แต่เธอก็พยายามเจียดเวลาอ่านหนังสือ
เฉิง เวนหยู่ แม่ของเฉิง หงหลี่
สาวน้อยหลี่ได้รับของขวัญชิ้นแรกที่เธอ ได้แก่ หนังสือเรียน และรองเท้ากีฬา ซึ่งเธอไม่มีมานานแล้ว สร้างความซาบซึ้งใจต่อเธอยิ่งนัก
ครูหลิว ซัวเหม่ยครูประจำชั้นของหลี่ชมเธอกับผู้สื่อข่าวว่า หลี่มีความตั้งใจเรียน และผลการเรียนดี เธอมักจะยกมือถามหากสงสัย ที่สำคัญเธอไม่เห็นว่าตัวเองด้อยกว่าใครๆ เธอมีสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆในชั้น
ความตั้งใจของหลี่คือ เธอต้องการอยากเป็นหมอเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น