9 เรื่องแปลกเมืองไทยที่ฝรั่งต้องอึ้ง!!!
1. ประเทศไทย…ทำไมมีสรรพนาม เรียกแทน ตัวเองและฝ่ายตรงข้ามมากมายหลายคำ ?
ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็จะมีแค่ I กับ You ถ้าเป็นภาษาจีน ก็มี หว่อกับ หนี่ แต่ภาษาไทยนี่มีเยอะมากกกก ตั้งแต่ ฉัน-เธอ , เรา-แก , ข้า-เอ็ง ,ผม-คุณ , เดี๊ยน-หล่อน และอีก สารพัด เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่างๆถ้าคุยกับพ่อแม่อาจจะเรียกตัวเองว่า หนูถ้าคุยกับน้องสาวอาจจะเรียกตัวเองว่าฉัน แต่พอไปคุยกับเพื่อนอาจเรียกตัวเองว่าเรา เอ๊ะ นั่นน่ะสิ ทำไมคนไทยถึงมีสรรพนามเรียกแทนตัวเองและคนอื่นเยอะขนาดนี้นะ ? น่าสงสัยเหมือนกันนะ !
2. ประเทศไทย …. ทำไมเมืองหลวงชื่อยาวมาก ?ชาว ต่างชาติมักรู้จักกรุงเทพฯ ในนาม Bangkok แต่ถ้าใครได้รู้ชื่อเมืองหลวงเต็มๆ ของกรุงเทพฯ รับรองว่าอึ้งทุกราย ก็ชื่อเมืองหลวง เต็มๆของกรุงเทพฯ เค้ามีชื่อว่า “กรุงเทพมหานคร อมรรัตน โกสินทร์ มหินทรายุธยามหาดิลกภพ นพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์ มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิตสักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์” ว่าแต่น้องๆ ท่องกันได้รึเปล่าล่ะ ?
3. ประเทศไทย …. ทำไมคนไทยนามสกุลยาวจัง ?
ในขณะที่ชาวต่างชาติเค้า นามสกุลสั้นๆ แค่ 2-3 พยางค์บางชาติก็แค่พยางค์เดียว แต่คนไทยส่วนมากนามสกุลย๊าวยาว บางคนยาวกว่า 8-9พยางค์ บางคนยาวเป็น 10 พยางค์ก็มี เวลากรอกเอกสารสำคัญๆเรียกว่าเขียนเกินหน้ากระดาษกันเลยทีเดียว
4. ประเทศไทย …. ทำไมคนไทยชอบ พิมพ์ 5555 ?
ก็เพราะว่าเลข 5 ในภาษาไทยออกเสียงว่า ‘ห้า’ หรือ พ้องไปเป็น‘ฮ่า’ ดังนั้นเวลาพิมพ์หรือแชทกัน แล้วรู้สึก ตลกหรือขำ ก็จะพิมพ์แทน
‘ฮ่าฮ่าฮ่า’ ว่า ’555′ บาง คนเผลอเอาไปพิมพ์แชทกับเพื่อน ต่างชาติรับรองว่า ฝรั่งงงทุกรายแน่ๆ 555 ไปๆ มาๆ เพื่อนต่างชาติของ เราดันติดเอาไปใช้คุยกับคนอื่นต่ออีกแน่ะ 555 อ้อแต่บางทีคนไทยด้วยกันเองก็มีงงบ้าง เช่น ค่ารถ เท่าไรอะ
55 จะขำทำไม เปล่า เฟ้ย หมายถึงค่ารถ 55 บาท
5. ประเทศไทย …. ทำไมอะไรๆ ก็ตีเป็นเลขได้ ?
อู้ ยยย อย่าว่าแต่ฝรั่งเลยที่แปลกใจคนไทยด้วยกันเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไม ทุกอย่างถึงสามารถตีเป็นเลขได้ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ (ต้นไม้ร้องไห้ มีน้ำไหลออกมาตลอดเวลา) สัตว์ (ควายแรกเกิดมี 2 หัว) ของกิน (แตงโมเผือก) และอะไรอีกสารพัดก็สามารถเอามาตีเป็นเลขได้ คนไทยนี่สุดยอดจริงๆ เลยนะเนี่ยอิอิ
6. ประเทศไทย …. ทำไมชื่อเล่นคนไทยถึงแปลกจัง ?
ก็ชื่อเล่นคนไทยมีทั้งชื่อสัตว์(แมว กวาง นก กระต่าย) ผลไม้(ส้มเปิ้ล มะปราง ชมพู่) ผัก(คะน้า แตงกวาต้นหอม ขิง) ขนม(วุ้น ปุยฝ้าย เค้กลูกกวาด) เครื่องประดับ (แก้ว แหวน สร้อย) เลข(หนึ่ง สอง สาม สี่)และอะไรอีกสารพัด เล่นเอาคนต่างชาติอึ้งว่าทำไมถึงตั้งชื่อกันอย่างนี้ มีเพื่อนคนนึงชื่อแตงกวาคุณเธอไปเรียนต่อที่เกาหลีเลยจัดแจงเปลี่ยนชื่อตัว เองเป็น ‘โออี’ (ภาษาเกาหลีแปลว่าแตงกวา) ตอนออกไปแนะนำตัวหน้าชั้นทั้งอาจารย์ทั้งเพื่อนขำกันยกใหญ่ว่าคนอะไรชื่อแตง กวา หารู้ไม่ว่าเมืองไทยชื่อแตงกวาออกจะน่ารัก ก็แหมมีใครเคยเจอชาวต่างชาติชื่อ cucumber rabbit necklace อะไรอย่างนี้มั้ยล่ะ?ไม่มี๊ไม่มีมีแต่คนไทยเท่านั้นแหละที่สามารถเอาสิ่งรอบ ตัวมาตั้งเป็นชื่อเล่นได้ !สุดยอดปะล่ะ !
7. ประเทศไทย …. ทำไม….ไหว้อะไรกันที่หน้า บ้าน ?
นั่นก็หมายถึงศาล พระภูมิเองล่ะค่ะ ฝรั่งบางคน (หรือแทบทุกคน) ได้เห็นแล้วต้องเป็นงงว่า ‘นี่คืออะไร บ้านนกเหรอ?’ แล้วทำไมต้องจุดธูปกับเอาของกินมาถวายบ้านนกด้วยล่ะ ? ดังนั้นก็ต้องอธิบายกันซะยืดยาวว่าจริงๆ แล้วนั่นคือศาลพระภูมิที่เชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตย์ของเจ้าที่ที่คอยคุ้ม ครอง แต่แหม พี่ฝรั่งบางคนนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรไม่ทราบ ดันซื้อกลับประเทศไปซะหลายหลัง – -”อย่างนักบอลชื่อดังเดวิด เบคแฮม ก็เป็นอีกรายที่ซื้อศาลพระภูมิกลับประเทศไปตรึม
8. ประเทศไทย …. ทำไมต้องยืนตรงก่อนหนังฉายในโรงหนัง ?
รับรองเถอะค่ะร้อยทั้งร้อยของชาวต่างชาติที่มีโอกาสได้เข้าไปในโรงหนังของบ้านเรา ต้องสงสัยทุกรายว่าทำไมต้องยืนตรงก่อนหนังฉาย
ยังไงก็อย่าลืมอธิบายให้เค้าฟังด้วยนะคะว่า ‘ต้องยืนตรงทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมี’ (ไม่ว่าจะอยู่ในโรงหนังหรือไม่ก็ตาม)เพื่อเป็นการแสดงความเคารพถึงพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของปวงชนชาวไทยนั่น เองค่ะ ….. เชื่อมั้ยคะว่าชาวต่างชาติบางคนรู้สึกขนลุกและประทับใจต่อเพลงสรรเสริญฯ มากบางคนมาเมืองไทยทีไร ต้องหาเวลาเข้าโรงหนัง ไม่ได้เข้าไปดูหนังหรอกนะคะแต่เข้าไปยืนตรงแล้วฟังเพลง
9. ประเทศไทย …. ทำไมคนไทยต้องติดรูปนี้ไว้บนฝาบ้าน ?
นั่นก็คือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั่นเองค่ะซึ่งเป็น รูปที่คนไทยต้องมีกันทุกบ้านไม่ว่าจะอยู่ที่มุมไหนของประเทศไทยคนไทยบาง คน(โดยเฉพาะในเมืองนอก)ถึงกับพกพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ติดกระเป๋าสตางค์ พอฝรั่งเห็นเข้าก็แปลกใจว่า เอ๊ะ พกรูปใครมาน่ะ Do you know him personally (รู้จักเค้าเป็นการส่วนตัวเหรอ) ?เราไม่ได้รู้จักท่านเป็นการส่วนตัวแต่ท่านคือพ่อของคนไทยทุกคนที่พวกเรา ทั้งรักและจงรักภักดีต่างหาก….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น