วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เย็นตาโฟ



เย็นตาโฟ เป็น ก๋วยเตี๋ยวที่ใส่ซอสสีแดงลงไป ทำให้น้ำก๋วยเตี๋ยวมีสีแดงอมชมพู มีรสชาติแปลกออกไปตามแต่ที่มาของซอส แต่ส่วนใหญ่แล้วทำจากเต้าหู้ยี้และซอสมะเขือเทศหรือซอสพริก และพริกป่น
นอก จากนี้ยังใช้วัตถุดิบพิเศษกว่าก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ เช่น มีปลาหมึกแห้ง เลือดหมู แมงกะพรุน หรือบางเจ้าใช้เห็ดแทนแมงกะพรุน ปาท่องโก๋ชิ้นเล็ก ปลาหมึกกรอบ และผักนิยมใช้ ผักบุ้ง อาจจะใส่เกี๊ยวทอดกรอบ ปลาชิ้น ลูกชิ้นปลา ด้วยก็ได้
ส่วนที่ขาดไม่ได้ในเย็นตาโฟคือ "เต้าหู้" เพราะเป็นต้นตอของอาหารชนิดนี้

นพพร สุวรรณพานิช ผู้จัดทำพจนานุกรมหัวป่าก์และปลายจวัก ระบุว่า เย็นตาโฟ ภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า ยี่อ่องเต่าฝู่ ภาษาอังกฤษใช้ว่า brewed bean curd

ส่วนข้อมูลวิกิพีเดียระบุว่า เย็นตาโฟน่าจะมาจากภาษาจีนแคะ ว่า ย้องแท้วฟู้ Yong Tau Fu หรือ Yong Tau Foo ภาษาจีนกลางอ่านว่า เหนียงเต้าฟู่ Niang Dou Fu

คำ ดังกล่าวหมายถึงเต้าหู้บ่มสอดไส้หมูสับ ลักษณะเดียวกับส่วนประกอบของก๋วยเตี๋ยวแคะ ซึ่งเป็นอาหารเลื่องชื่อของชาวจีนฮากกา หรือชาวจีนฮั่นกลุ่มหนึ่ง แต่เดิมมีบรรพบุรุษที่มีต้นกำเนิดบริเวณมณฑลเหอหนานและซานซี ทางตอนเหนือของจีน แต่ต่อมาอพยพลงมาทางใต้

ชาวแคะที่อาศัยอยู่นอกจีนแผ่นดินใหญ่ มีทั้งที่มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย ไต้หวัน และติมอร์ตะวันออก

ชาว จีนที่อยู่เมืองไทยส่วนใหญ่ใช้ภาษาแต้จิ๋ว เมื่อเรียกอาหารชนิดนี้ตามแบบถนัดจึงออกเสียงว่า ยี่อ่องเต่าฝู่ หรือ เยี่ยงเต่าฮู ก่อนคนไทยเรียกตามมาอีกทีจนเพี้ยนมาเป็นเย็นตาโฟ

เต้าหู้ ยัดไส้ที่ชาวไทยรู้จักในชื่อ "เต้าหู้แคะ" เป็นวัตถุดิบสำคัญของ "ก๋วยเตี๋ยวแคะ" อาหารพื้นบ้านโบราณชาวฮากกาที่สืบทอดมาเป็นเวลายาวนานนับพันปีจนกลายเป็น อาหารพื้นเมืองเลื่องชื่อของประเทศจีน ส่วนชาวฮากกาในมาเลเซียนิยมอาหารนี้เช่นกัน จนจดทะเบียนให้เต้าหู้แคะ หรือ ย้องแท้วฟู้ เป็นหนึ่งใน 100 รายการมรดกวัฒนธรรมอาหารของประเทศ

สำหรับเมนูก๋วยเตี๋ยวในประเทศไทย สันนิษฐานว่าเริ่มเข้ามาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ช่วงที่สยามเปิดประเทศติดต่อกับชาวต่างชาติมากมาย ชาวจีนจึงนำก๋วยเตี๋ยวเข้ามากินกันในเรือ โดยต้มในน้ำซุป ใส่หมู ใส่ผักและเครื่องปรุงเพื่อความอร่อย ก่อนถ่ายทอดวัฒนธรรมการกินนี้มาถึงไทย โดยคนไทยนิยมกินอาหารรสเข้มข้นกว่า จึงปรับเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่างๆ จนปัจจุบันมีก๋วยเตี๋ยวเป็นเมนูยอดนิยมนานาชนิด รวมถึงเย็นตาโฟด้วย

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

2012 Olympics Closing Ceremony

Photo taken on Aug. 24, 2008 shows the fireworks of the Beijing 2008 Olympic Games closing ceremony in the National Stadium, or the Bird's Nest, Beijing, capital of China. The closing ceremony began at 8 p.m. sharp on Sunday. (Xinhua/Chen Kai)




 ติดตามชมพิธีปิดกีฬาโอลิมปิกถ่ายทอดสดทาง Youtube ได้ที่  http://www.youtube.com/olympic


London 2012 closing ceremony




















 

บ้านสีลูกกวาด



      หากคุณมีโอกาสไปเที่ยวอิตาลี (Italy) หรือ สาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic) ขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดโอกาสไปเยือน เกาะบูราโน (Burano Island) เกาะขนาดเล็กๆในเขตทะเล สาบเวนิส (Venetian lagoon) โดยอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเวนิส (Venice) เป็นระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความงดงามของเหล่าอาคารบ้านเรือนสีลูกกวาด สีสันสดใสที่ตั้งเรียงรายไปตลอดสองฝั่งคลองบนเกาะ นับว่าเกาะเป็นสวรรค์ของเหล่าช่างภาพและผู้ต้องการหลบความพลุกพล่านในตัวเมืองเวนิส

สำหรับ การท่องเที่ยวบนเกาะบูราโนนั้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยของเมืองที่ขนานไปกับคลองที่ ไหลลัดเลาะไปตามตัวเมือง ตื่นตาไปกับดอกไม้หลากสีสันที่ อวดสีสันจากหน้าต่างบ้านของแต่ละหลัง ลัดเลาะไปตามถนนสายหลักที่ตั้งเรียงรายไปด้วยร้านขายขนม-ของที่ระลึก, ร้านค้า, บาร์ และร้านอาหาร

นอกจากนี้แล้ว เกาะบูราโน ยังมีชื่อเสียงในการทำลูกไม้ ซึ่งสามารถสังเกตุได้จากร้านค้าขายลูกไม้ที่มีจำนวนมากภายในตัวเมือง เนื่องจากบูราโนมีชื่อเสียงในเรื่องการทำลูกไม้ที่มีคุณภาพ สูงมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 หลังจากนั้นขอแนะนำว่าคุณต้องไม่พลาดไปเยือน พิพิธภัณฑ์ลูกไม้ (Lace Museum) ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกี่ยวกับลูกไม้ วิธีการผลิตลูก ไม้ ซึ่งถือว่าเป็นงานฝีมือที่ได้รับการยอมรับมากเป็นอันดับต้นๆของอิตาลีอีก ด้วย